NAC 2023 สวทช.เปิดบ้านโชว์เทคโนฯ นักลงทุน

ดร.วรรณพ วิเศษสงวน ผอ.ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า

การประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ครั้งที่ 18 (18th NSTDA Annual Conference : NAC2023) ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี วันที่ 28-31 มี.ค.นี้ จะเป็นการจัดออนไซต์เต็มรูปแบบครั้งแรกหลังโควิด -19 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้มีโอกาสเต็มอิ่มกับเนื้อหาสาระที่ สวทช.เตรียมมานำเสนอ โดยเฉพาะหัวข้อการสัมมนาที่มีมากถึง 40 หัวข้อ นิทรรศการกว่า 70 ผลงาน โดยแต่ละนิทรรศการจะมีนักวิจัยเจ้าของผลงานมานำเสนองานวิจัยเพื่อตอบทุกข้อคำถามของผู้เข้าร่วมงานที่สนใจช็อปปิ้งงานวิจัย

ข่าวเทคโนโลยี

ดร.วรรณพกล่าวต่อว่า ที่น่าสนใจคือ Open House หรือเปิดบ้านให้ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ นักอุตสาหกรรม นักลงทุนได้เยี่ยมชมเทคโนโลยีจากศักยภาพของบุคลากรวิจัยและห้องปฏิบัติการ สวทช. ตลอดจนนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ธุรกิจจากบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี

ที่จะเป็นตัวช่วยให้การนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปเพิ่มศักยภาพและกำไรให้กับธุรกิจในวันที่ 29-31 มี.ค.นี้ ทั้งยังได้เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเข้าร่วมกิจกรรมการนำเสนอจากนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญรวมถึงการจับคู่ธุรกิจ (business matching) ในหัวข้อที่สนใจจะพัฒนาความร่วมมือ ดังนั้นนอกจากได้เติมความรู้แล้วยังได้สัมผัสงานวิจัยของจริง พร้อมกับแลกเปลี่ยนมุมมองกับนักวิจัยเจ้าของผลงานอย่างใกล้ชิดด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม : หาคู่ในยุคดิจิทัล ต้องให้เทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาหัวใจ!

หาคู่ในยุคดิจิทัล ต้องให้เทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาหัวใจ!

หนึ่งในคำถามที่คนโสดหลายคนอยากจะเอ่ยปากถามคนมีแฟนมากที่สุดก็คือ “ไปหาแฟนกันมาจากที่ไหน ถ้าฉันไปบ้าง

จะได้เจอว่าที่แฟนแบบที่คนอื่น ๆ เจอหรือเปล่า” เพราะรอมาก็เนิ่นนาน ไม่เห็นมีวี่แววว่าจะมีคนมาเดินข้าง ๆ เสียที พรหมลิขิตไม่ทำงานหรือยังไง หรือเนื้อคู่ฉันยังไม่เกิด และข้อสงสัยอีกมากมายในหัวที่จะสรรหาจะคิดว่าทำไมฉันถึงยังไม่มีโอกาสได้เจอความรักแบบคนอื่นเขาเสียที หลายคนมีแฟนและเปลี่ยนแฟนใหม่ไป 2-3 คนแล้ว ฉันก็ยังไม่เคยมีสักคนเหมือนเดิม! แล้วฉันต้องรอคอยคนคนนั้นอีกนานแค่ไหนกัน!

ในยุคดิจิทัลที่คนเริ่มไม่ชอบรออะไรนาน ๆ ยังจะมีใครมารอคอยความรักแบบบุพเพสันนิวาสอยู่อีกหรือเปล่า ถ้าไม่อยากจะรอให้พรหมลิขิตทำงาน มีอะไรบ้างที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้บ้าง ซึ่งในวันที่ “เทคโนโลยี” และ “โซเชียลมีเดีย” ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนมากขึ้นจนแทบจะแยกออกจากกันไม่ได้แบบนี้ หลายคนก็เริ่มที่จะใช้เทคโนโลยีที่มีทั้งหมดในมือเข้ามาแก้ “ปัญหาหัวใจ” ไม่ใจเย็นพอที่จะรอพรหมลิขิตอีกต่อไปแล้ว ฉันขอลิขิตความรักของฉันเองเลยแล้วกัน

หาคู่ในยุคดิจิทัล

เมื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยและแพลตฟอร์มการสื่อสารทางออนไลน์เข้ามามีบทบาทในหลากหลายมิติในชีวิตประจำวันของเรา การมีปฏิสัมพันธ์กันโดยมีจุดเริ่มต้นมาจากโลกออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นความสัมพันธ์ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พันธมิตร หรือแม้กระทั่งคู่รัก เราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี แพลตฟอร์มการสื่อสาร

อันหมายรวมไปถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ กลายเป็นประตูในการเปิดเข้าไปสร้างความสัมพันธ์ให้เกิดขึ้นมากมาย จากคนที่อยู่กันคนละมุมโลก สามารถเชื่อมหากันได้ด้วยอินเทอร์เน็ต และมีสถานะต่าง ๆ ให้กันผ่านการสื่อสารทางออนไลน์ ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในเวลานี้ก็คือ การหาคู่ออนไลน์ หรือ Online Dating นั่นเอง

อ่านข่าวเพิ่มเติม : FPT Software เปิดสำนักงานใหม่ ใจกลางย่านธุรกิจ พร้อมจัดงานกาล่าดินเนอร์เพื่อแทนคำขอบคุณแก่ลูกค้า เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายบริษัทไอทีระดับท็อป 30 ของประเทศไทย

FPT Software เปิดสำนักงานใหม่ ใจกลางย่านธุรกิจ พร้อมจัดงานกาล่าดินเนอร์เพื่อแทนคำขอบคุณแก่ลูกค้า เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายบริษัทไอทีระดับท็อป 30 ของประเทศไทย

FPT Software เปิดสำนักงานใหม่ ใจกลางย่านธุรกิจ พร้อมจัดงานกาล่าดินเนอร์เพื่อแทนคำขอบคุณแก่ลูกค้า เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายบริษัทไอทีระดับท็อป 30 ของประเทศไทย

มิสเตอร์ เลวี่ เหงียน CEO ของบริษัท FPT Software – Greater Bay Indochina (คนที่ 3 จากขวา) ผู้ให้บริการด้านไอทีชั้นนำจากเวียดนาม เปิดสำนักงานสาขาใหม่ใจกลางย่านธุรกิจในไทย มุ่งเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายบริษัทไอทีชั้นนำระดับท็อป 30 ของประเทศไทย และครอบคลุม FPT Software ทั่วโลก จัดงานกาล่าดินเนอร์ ณ โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพฯ เพื่อแทนคำขอบคุณแก่ลูกค้าและพันธมิตรบริษัทที่ให้การสนับสนุนมาอย่างยาวนาน โดยในงานได้รับเกียรติจาก พณ. ท่าน ฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย (คนที่ 3 ซ้าย), จรุง เกียรติสุภาพงศ์, วรนุช เดชะไกศยะ, มิสเตอร์ เหงียน ตวน มินห์ รวมถึงแขกผู้มีเกียรติร่วมงาน.

FPT Software

พณ. ท่าน ฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยกล่าวคำปราศรัยในงาน เน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างไทยและเวียดนามที่ครอบคลุมในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ท่านเอกอัครราชทูตยังเชื่อว่า ด้วยความสามารถ ด้านไอทีของ FPT Software บริษัทจะสามารถมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และเร่งสร้างกระบวนการ Digital Transformation ซึ่งคือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้สร้างการเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจ

FPT Software สาขากรุงเทพฯ คาดว่าจะตอบสนองต่อความต้องการ Digital Transformation ที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย “เราตั้งเป้าที่จะส่งเสริมพนักงานในท้องถิ่น 500 คน ซึ่งเป็นวิศวกรไอทีระดับคุณภาพในอีก 3 ปีข้างหน้า และตั้งเป้าจะได้ร่วมงานกับบริษัทหลากหลายประเภทในประเทศไทย รวมทั้งการค้าปลีก, ธนาคาร การเงิน และประกันภัย, การผลิต และอีกมาก” มิสเตอร์ เลวี่ เหงียน CEO ของบริษัท FPT Software – Greater Bay Indochina ได้ประกาศเจตนารมณ์

ซีอีโอของ FPT Software ยังแสดงความคิดเห็นว่า สำนักงานใหม่จะช่วยให้ FPT Software สามารถร่วมงานกับองค์กรชั้นนำในประเทศไทยในกระบวนการ Digital Transformation ได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น “ปรัชญาของบริษัทเราคือการเอาใจใส่ลูกค้า สำนักงานแห่งนี้จะช่วยให้เราสามารถให้บริการได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” มิสเตอร์ เลวี่ เหงียน กล่าว

“นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถและทรัพยากรที่แข็งแกร่งของบริษัทเราในแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Make ของธนาคารกสิกรไทย Alive & Vitality ของ AIA ตลอดจนเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น คลาวด์,ข้อมูล, ปัญญาประดิษฐ์ และความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์” ซีอีโอ FPT GBI กล่าวเสริม

สำหรับคุณวรนุช เดชะไกศยะ Executive Chairman ของ KBTG กล่าวในงานว่า “ดิฉันได้ไปเยี่ยมชม FPT Software Campus ในเวียดนาม และมันไม่แตกต่างจาก Silicon Valley ในสหรัฐอเมริกาเลย ดิฉันดีใจที่ได้ร่วมงานกับบริษัทไอทีชั้นนำอย่าง FPT Software พวกเขาทุ่มเทใช้ผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คนเพื่อสนับสนุนแพลตฟอร์มดิจิทัลและระบบหลักของเรา และเราวางแผนที่จะเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 2566”

เวียดนามและไทยกำลังอยู่ในระหว่างการก้าวเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยรัฐบาลทั้งสองได้ริเริ่มการวางเค้าโครงและโครงการต่างๆ ปลดล็อกศักยภาพการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทต่างๆ ของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในภาคส่วนไอซีที ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศจะคิดเป็น 20% ถึง 30% ของ GDP

ในฐานะบริษัทไอทีชั้นนำของเวียดนาม FPT Software มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือระยะยาวในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลระหว่างเวียดนามและไทยอย่างช้าไม่เกินภายในปี 2573

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา FPT Software มีสถานะที่แข็งแกร่งใน 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย และจีน (รวมถึงฮ่องกง) ทำให้สามารถให้บริการด้านไอทีแบบครบวงจรแก่ธุรกิจทุกภาคส่วน บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 50 อันดับของผู้ให้บริการ Digital Transformation ระดับโลกภายในปี 2573

เกี่ยวกับ FPT Software

FPT Software เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและไอทีระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม มีรายได้มากกว่า 632.5 ล้านดอลลาร์ และพนักงาน 25,500 คน ใน 27 ประเทศ ในฐานะผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล บริษัทให้บริการระดับโลกในโรงงานอัจฉริยะ, แพลตฟอร์มดิจิทัล, RPA, AI, IoT, คลาวด์, AR/VR, BPO และอื่นๆ อีกมาก ให้บริการลูกค้ามากกว่า 1,000 รายทั่วโลก ซึ่งหลายร้อยแห่งเป็นบริษัทที่ติดอันดับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลกจากอันดับ Fortune Global 500 โดยเป็นบริษัทในด้านยานยนต์ การธนาคารและการเงิน โลจิสติกส์และการขนส่ง สาธารณูปโภค และอีกมากมาย