“แซน” ขอฟ้องกลับ “แม๊-ทีมทนาย” อ้างแจกข่าวปลอม ทำให้เสียหาย

คดีแตงโมล่าสุด “แซน” โพสต์ข้อความ ขอฟ้องกลับ “แม๊-ทีมทนาย” อ้างแจกข่าวปลอม ทำให้เสียหาย ย้ำเป็นหนึ่งในผู้โดยสารบนเรือ ไม่ใช่ผู้รักษาความปลอดภัยประจำเรือ

จากกรณีที่ “ปอ-โรเบิร์ต” จำเลยที่ 1-2 ในคดีแตงโม-นิดา ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาตามที่อัยการสั่งฟ้องลุ้นระทึกศาลนัดฟังคำพิพากษา 10 พ.ค.นี้ ส่วนจำเลยที่ 3-6 ยังสู้ต่อ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยคุณแม่แตงโม ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการยื่นฟ้องจำเลยที่เหลืออีก 4 คนเป็นคดีใหม่ ในความผิดฐานร่วมกันประมาท

ขณะที่ “แซน-วิศาพัช” บอกเซอร์ไพรส์ ไม่รู้มาก่อนสองหนุ่มจะกลับคำให้การ จ่อฟ้องคุณแม่กล่าวหาฆาตกรรม เรียกค่าเสียหาย 40.8 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด แซน ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม ระบุว่า แซนขอฟ้องคุณแม๊และทีมทนายในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจากที่คุณแม๊.. แจกข่าวปลอมทั้งหมดสามแผ่นให้กับสื่อที่หน้าศาล โดยเนื้อหาทำให้แซนเสื่อมเสียจากเรื่องที่คุณแม่และทางทีมทนายได้แต่งขึ้นโดยไร้ข้อเท็จจริง เพียงหวังผลบางประการจากการปล่อยข่าวปลอมนั้น

แซน-วิศาพัช

นอกจากนี้ ยังมีแคปชั่นว่า “ข้อเท็จจริงสำหรับคุณแม่และทางทีมทนายเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องไม่บิดเบือนนะคะ แซนเป็นผู้โดยสารไปในฐานะเพื่อนไม่ใช่ผู้รักษาความปลอดภัยประจำเรือที่จะต้องมีหน้าที่คอยดูแลรับผิดชอบผู้โดยสารทุกคนต้องเข้าใจด้วยนะคะว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด อย่าใช้วิกฤติเป็นโอกาสเลยนะคะ ทุกคนสูญเสียมาพอแล้ว ถ้ายังไม่จบแซนจะไม่เพิกเฉยต่อทุกความผิดทุกการกระทำจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตามแซนจะใช้ทุกสิทธิ์ที่มีปกป้องตัวเองให้ถึงที่สุดค่ะ

พร้อมติดแฮชแท็ก #ขาไปเป็นผู้โดยสารขากลับเป็นจำเลย #ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน #อุบัติเหตุคนตกรถโดยสารโดนข้อหาประมาททั้งคันไหมคะ #ทีมทนายใหม่ฝ่ายโจทก์ปล่อยข่าวปลอมทำให้แซนเสียหายแบบนี้ เข้าข่ายหมิ่นประมาท พวกคุณเป็นทนายน่าจะทราบความรู้พื้นฐานพวกนี้อยู่แล้วแปลว่าคุณตั้งใจกระทำความผิดโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเลยนะคะ

อ่านข่าวเพิ่มเติม : จ่าอากาศโท ขี่รถเสียหลักพุ่งเสยทางเท้า หัวฟาดตอม่อดับ สาวซ้อนท้ายสุดช็อก เพิ่งรู้จักในผับ

จ่าอากาศโท ขี่รถเสียหลักพุ่งเสยทางเท้า หัวฟาดตอม่อดับ สาวซ้อนท้ายสุดช็อก เพิ่งรู้จักในผับ

จ่าอากาศโท ขี่รถเสียหลักพุ่งเสยทางเท้า หัวฟาดตอม่อดับ สาวซ้อนท้ายเผย เพิ่งรู้จักกันในผับ ผู้ตายอาสาพาไปส่งบ้านแต่เกิดอุบัติเหตุก่อน

เมื่อเวลา 04.30 น. (28 ม.ค.66) พ.ต.ท.คมสันต์ คุ้มครอง สารวัตร(สอบสวน)สน.บางเขน รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งชนฟุตปาธมีผู้เสียชีวิต บนถนนพหลโยธิน ขาเข้า มุ่งหน้าวงเวียนบางเขน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมแพทย์ แผนกนิติเวช รพ.ภูมิพลอดุลย์เดช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้ากรมทหารบกขนส่ง พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีขาว หมายเลขทะเบียน 212 ชลบุรี สภาพล้มคว่ำอยู่ ใกล้กันพบผู้ขับขี่เสียชีวิตเป็นทหาร ยศจ่าอากาศโท อายุ 26 ปีสังกัดกองทัพอากาศ สภาพสวมเสื้อยืดคอกลม สีดำ นุ่งกางเกงขายาว สีเทา มีบาดแผลกระโหลกศีรษะแตก ขาขวาหักผิดรูป นอนหงายจมกองเลือด มีหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ สีเทา สภาพแตกร้าวตกอยู่ที่เกิดเหตุ

สังคม จ่าอากาศโท

นอกจากนี้ยังมีคนนั่งซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บทราบชื่อ น.ส.น้ำฝน (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี มีบาดแผลที่แก้มซ้ายรอยถลอกเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม น.ส.น้ำฝน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านสะพานใหม่ และได้รู้จักกับผู้ตาย หลังจากร้านปิดผู้ตายได้อาสาจะขี่รถไปส่งบ้าน ตนจึงนั่งซ้อนท้ายมาด้วย เมื่อผู้ตายขี่รถจยย.มาถึงที่เกิดเหตุ รถเกิดเสียหลักพุ่งเสยฟุตปาธริมถนน ทำให้ผู้ตายร่างกระเด็นศีรษะฟาดกับเสาตอม่อสกายวอล์กรถไฟฟ้าอย่างแรง ส่วนตนร่างกระเด็นนอนกลิ้งไถลพื้นถนนจนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าเท่านั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่พบว่ามีคู่กรณีแต่อย่างใด จึงนำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.ภูมิพลฯก่อนประสานญาติผู้เสียชีวิตให้ทราบต่อ

ข่าวสังคมเพิ่มเติม>>>>สธ.แจงค่าเสี่ยงภัยโควิดบุคลากรนอกสังกัด ให้ส่งข้อมูลภายในวันที่ 9 ม.ค.นี้

สธ.แจงค่าเสี่ยงภัยโควิดบุคลากรนอกสังกัด ให้ส่งข้อมูลภายในวันที่ 9 ม.ค.นี้

สธ.แจงค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิดบุคลากรนอกสังกัด ให้หน่วยงานรวบรวมข้อมูลส่งของบกลางภายในวันที่ 9 ม.ค.นี้

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แจงค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิด สำหรับบุคลากรนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ค้างจ่ายของปีงบประมาณ 2565 ได้แจ้งให้หน่วยงานต้นสังกัดรวบรวมข้อมูลพร้อมหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายที่ถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ ภายในวันที่ 9 มกราคมนี้ เพื่อจัดทำคำขอสนับสนุนงบกลางให้ต่อไป

วันนี้ (6 มกราคม 2566) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมค่าตอบแทนเสี่ยงภัยของบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตั้งแต่ปี 2563 กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการเสนอขอรับการสนับสนุนค่าตอบแทนเสี่ยงภัยให้กับบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน ทั้งภายในและภายนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 โดยในส่วนของบุคลากรภายนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัยของปีงบประมาณ 2564 (ตุลาคม 2563 – กันยายน 2564) แล้วรวมทั้งสิ้น 1,733 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย 892.8 ล้านบาท 2.กระทรวงมหาดไทย (รวม กทม.) 398.7 ล้านบาท 3.กระทรวงกลาโหม 372.2 ล้านบาท 4.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 60.5 ล้านบาท 5.กระทรวงยุติธรรม 9.3 ล้านบาท ซึ่งบุคลากรจากทุกหน่วยได้รับค่าตอบแทนเสี่ยงภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สังคม.jpg2

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับค่าตอบแทนเสี่ยงภัยของผู้ปฏิบัติงานโควิด 19 นอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ยังค้างจ่ายของปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564 – กันยายน 2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีหนังสือถึงหน่วยงานต้นสังกัดที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2565 ให้รวบรวมข้อมูลค่าตอบแทนเสี่ยงภัยของผู้ปฏิบัติงาน พร้อมหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายเป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย และหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด พร้อมรับรองข้อมูลโดยหัวหน้าส่วนราชการ (ระดับกรม) แยกเป็นรายหน่วยงาน รายเดือน โดยให้ส่งข้อมูลภายในวันที่ 9 มกราคม 2566 เพื่อกระทรวงสาธารณสุขจะได้รวบรวม ตรวจสอบความถูกต้อง และเสนอขอรับการสนับสนุนจากสำนักงบประมาณพิจารณาและนำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป